หลายคนอาจชอบรับประทานหอยนางรมดิบซึ่งในขณะนี้กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น แต่การรับประทานหอยนางรมดิบหรือปรุงไม่สุก รวมถึงหอยชนิดอื่นๆ อาจทำให้คุณเสี่ยงต่อการเกิดภาวะอาหารเป็นพิษได้
เชื้อแบคทีเรียสกุลวิบริโอ Vibrio โดยธรรมชาติเชื้อนี้อาศัยอยู่ในน้ำทะเลและน้ำกร่อย โดยผู้ป่วยได้รับเชื้อจากการรับประทานอาหารทะเลดิบโดยเฉพาะอย่างยิ่งในหอยนางรม และทางบาดแผลที่สัมผัสกับเชื้อในแหล่งน้ำ เนื่องจากหอยนางรมกินอาหารโดยการกรองจากน้ำ เชื้อวิบริโอ แบคทีเรียและไวรัสที่เป็นอันตรายอื่นๆ สามารถเข้าสู่เนื้อเยื่อของพวกมัน เมื่อมีคนกินหอยนางรมดิบหรือที่ปรุงไม่สุก เชื้อโรคที่อาจอยู่ในหอยนางรมอาจทำให้เกิดอาการป่วย อย่างภาวะอาหารเป็นพิษ มีอาการเริ่มต้น 2 ถึง 48 ชั่วโมงหลังจากได้รับเชื้อ ถ่ายอุจจาระเป็นน้ำ คลื่นไส้ ปวดท้อง อาเจียน มีไข้ หนาวสั่น
⚠️ปัจจัยเสี่ยงที่ทําให้มีอาการรุนแรง • มีโรคตับแข็ง ไวรัสตับอักเสบ มะเร็ง เบาหวาน เอชไอวี โรคธาลัสซีเมีย • ได้รับยากดภูมิคุ้มกัน • เพิ่งได้รับการผ่าตัดกระเพาะอาหาร • อายุ 65 ปีขึ้นไป
✅การป้องกันที่ดีที่สุดคือ หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารทะเลดิบโดยเฉพาะหอยนางรม และการสัมผัสกับน้ำทะเลและน้ำกร่อยเมื่อมีบาดแผล
• ไม่รับประทานหอยนางรมดิบหรือปรุงไม่สุกหรือหอยอื่นๆ โดยปรุงให้สุกก่อนรับประทาน ซอสที่ทำให้ร้อนและน้ำมะนาวไม่ฆ่าเชื้อแบคทีเรียสกุล Vibrio และแอลกอฮอล์ก็เช่นกัน • จัดเก็บแยกอาหารทะเลปรุงสุกออกจากอาหารทะเลดิบเพื่อหลีกเลี่ยงการปนเปื้อน • ล้างมือด้วยสบู่และน้ำหลังจากจับต้องอาหารทะเลดิบ • อยู่ให้ห่างจากน้ำเกลือหรือน้ำกร่อยหากคุณมีบาดแผล (รวมถึงจากการผ่าตัด การเจาะตามร่างกาย หรือรอยสักที่เพิ่งสักมา)
หอยนางรมที่มีแบคทีเรีย Vibrio ที่เป็นอันตรายนั้นไม่มีรูปลักษณ์ กลิ่น หรือแม้แต่รสชาติที่แตกต่างจากหอยนางรมชนิดอื่นๆ คุณสามารถฆ่าแบคทีเรีย Vibrio ในหอยนางรมและหอยอื่นๆ ได้โดยการปรุงอาหารให้สุกอย่างถูกต้อง
ที่มา CDC กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์
Comentarios